วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประเภทของดอกบานชื่น (ตามความสูง)

ถ้าจัดบานชื่นตามความสูงของต้นจะได้ 3 กลุ่มดังนี้

1. พวกต้นเตี้ย (dwarf) คือพวกที่สูง 6 – 12 นิ้ว ได้แก่ พันธุ์ Dreamland ขนาดดอก 3.5 นิ้ว
Ice Cream ขนาดดอก 3.5 – 4 นิ้ว
Peter Pan (AAS 1971) ขนาดดอก 3 – 3.5 นิ้ว
Dasher ขนาดดอก 3 นิ้ว
Thumbelina (AAS 1963) ขนาดดอก 1.5 – 2 นิ้ว
พันธุ์ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีสีคละ

2. พวกกึ่งเตี้ย (semi dwarfได้แก่พวกต้นสูง 12 – 14 นิ้ว มักมีดอกเล็กทำเป็นไม้ปลูกในภาชนะหรือในกระถางได้ดี ได้แก่
พันธุ์ Pulcino ขนาดดอก 2 – 3 นิ้ว มีสีคละ
Small World ขนาดดอก 2.5 นิ้ว พันธุ์นี้สีเชอรี่พิงค์ได้ AAS
Fantastic Pink ขนาดดอก 4.5 นิ้ว สีชมพูอ่อน ดอกซ้อนแน่น ต้นสูง 14 นิ้ว

3. พวกต้นสูง (tall) ได้แก่พวกต้นสูง 16 นิ้วขึ้นไป มีดอกขนาดใหญ่ ทำเป็นไม้ตัดดอกได้ด้วย ได้แก่
พันธุ์ Cut ’n Come Again ขนาดดอก 2.5 – 3 นิ้ว
State Fair ขนาดดอก 5.5 นิ้ว เป็นเตตราพลอยด์
Gold Sun สีทอง และ Red Sun สีแดง ขนาดดอก 4 นิ้ว ได้ AAS ทั้งคู่ สีดอกสดสวยสะดุดตามาก

Yellow Marvel (AAS 1985) ดอกดกมาก ขนาด 2.5 นิ้ว ใช้ทำเป็นไม้ตัดดอกได้ด้วย เป็นเมล็ดพันธุ์ผสมเปิด แต่ให้ดอกดีพอๆ กับลูกผสมชั่วที่ 1 และเมล็ดราคาถูก ชุด Marvel นี้ มีอีกหลายสี ปลูกประดับแปลงก็สวย ทำไม้ตัดดอกก็ดีมาก
นอกจากนี้ มีพันธุ์ Envy ดอกสีเขียว ขนาดดอก 4 นิ้ว, Fruit Bowl สีคละ, Firecracker, Zenith ขนาดดอก 5 นิ้ว, Big Red, Big Top, Torch เป็นต้น

นอกจากจัดตามความสูงของต้นแล้ว ดอกของบานชื่นยังมีหลายแบบ ทำให้จัดบานชื่นตามลักษณะ ดอกได้ดังนี้

1. Dahlia flowered คือ พวกที่มีกลีบดอกแบนกว้าง ดอกค่อนข้างแบน ขนาดดอก ประมาณ 5 นิ้ว ต้นสูงประมาณ 2.5 ฟุต John Bodger เป็นผู้ริเริ่มและเสนอพันธุ์นี้ออกสู่ตลาดตั้งแต่ ปี 1919 และส่งเสริมให้บานชื่นติดอันดับหนึ่งในสิบของไม้ดอกยอดนิยมของอเมริกาใน 5 ปีต่อจากนั้น พันธุ์ที่มีรูปดอกแบบนี้ในปัจจุบันได้ชุด Sun เช่น Red Sun (AAS 1978) Gold Sun (AAS 1979) Yellow Marvel (AAS 1985) Pumila, Pulcino, Fantastic Pink, Envy และ Dreamland เป็นต้น พวกนี้นิยมใช้เป็นไม้ตัดดอกด้วย

2. Giant Cactus flowered คือพวกที่มีริมกลีบม้วนลงเล็กน้อยตามความยาวกลีบ ปลายกลีบเรียว
มากน้อยแล้วแต่พันธุ์ ดอกมีขนาดใหญ่มากประมาณ 6 นิ้วหรือกว่านั้น ต้นสูงประมาณ 2 ฟุต Luther Burbank เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์เป็นคนแรกในปี 1920 กลุ่มนี้มีความทนทานต่อโรครานํ้าค้างและแข็งแรงดี ได้แก่พันธุ์ Fruit Bowl, Big Top, Firecracker (AAS 1963), Zenith และ Torch เป็นต้น
พวกนี้นิยมใช้เป็นไม้ตัดดอกเช่นเสียวกัน

3. Round Flowered คือพวกที่กลีบดอกแบนซ้อนกันแน่นจนดูดอกกลม ดอกค่อนข้างเล็กและพุ่มต้นค่อนข้างเตี้ย ได้แก่พันธุ์ Button Box, Small World, Dasher, Lilliput, และ Ruffles

4. Tetraploid Flowered คือพวกที่ดอกใหญ่ขนาด 5 – 7 นิ้ว ต้นสูงกว่า 2 ฟุต มียีนส์ เป็นเตตราพลอยด์ รูปดอกแบบ Dahlia ได้แก่พันธุ์ State Fair, Burpee’s Big Tetra และ Ruffled Jumbo
ดอกของบานชื่นที่ตัดมาแล้ว เมื่อนำมาแช่ในสารละลาย 8 HQC 200 มิลลิกรัม/ลิตร และเติมน้ำตาลซูโครส 1 จะสามารถบานในแจกันได้ถึง 2 อาทิตย์
พันธุ์ใหม่ที่ได้ AAS 1990 คือ Scarlet Splendor เจ้าของพันธุ์คือ Denis Flaschenreim ของบริษัทเบอร์พี ดอกใหญ่ 4 – 5 นิ้ว สีแดงสด ต้นสูง 2 ฟุต มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศ ได้ดีและทำเป็นไม้ตัดดอกได้ดีด้วย
บานชื่นมักมีโรครานํ้าค้าง (mildew) รบกวนในสภาพอากาศชื้น บริษิทเบอร์พีมีพันธุ์ Rose Pinwheel สีชมพู ดอกชั้นเดียว เกสรสีเหลืองสด ขนาดดอก 2.5 – 3 นิ้ว กลีบดอกบิดเล็กน้อย เมื่อดอกแก่จะเปลี่ยนสีเป็นสีเข้มขึ้น ต้นสูง 18 นิ้ว เป็นพันธุ์ที่ต้านทานโรคนี้ และจะเป็นที่มาของยีนส์ที่ต้านทานโรคนี้ต่อไป พันธุ์นี้ได้มาจากการผสม Zinnia elegans กับ Zinnia angustifolia
เมล็ดของบานชื่นมีขนาดใหญ่ เพาะง่าย ดินที่ปลูกควรระบายน้ำดี ที่ปลูกต้องมีแดดเต็มที่ มีการระบายอากาศดีด้วย การให้น้ำไม่ควรให้ถูกใบเพราะจะทำให้เกิดโรคและก้านดอกหักง่ายด้วย บานชื่นมีระบบรากค่อนข้างตื้น ควรเด็ดยอดให้แตกพุ่มจะช่วยยึดลำต้นได้ดี

นอกจากบานชื่นที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพันธุ์ดั้งเดิม ดอกเล็ก มีกลีบชั้นเดียวหรือซ้อนน้อย ต้นเป็นพุ่มกว้างคือ Zinnia linearis หรือ Zinnia angustifolia ต้นสูง 8 – 10 นิ้ว ใบเรียวยาว ดอกขนาด 1.5 นิ้ว สีขาว สีเหลือง และสีส้ม เป็นพันธุ์ที่มีความต้านทานโรคสูง เช่นพันธุ์ Classic ที่เราเรียกกันว่า กระดุมเงิน กระดุมทอง
Zinnia Haageana เป็นบานชื่นจากเม็กซิโก ต้นสูง 14 นิ้ว ดอกสีนํ้าตาลอมแดง ปลายกลีบสีเหลืองสด ดอกซ้อนขนาด 2 – 3 นิ้ว เช่นพันธุ์ Old Mexico (AAS 1962)
    

    ผู้ที่สนใจปลูกไม้ดอกแต่ยังไม่เคยลองปลูกเลยขอแนะนำให้ปลูกบานชื่นก่อนเพราะมีดอกสวย การปลูกและดูแลรักษาไม่ยาก ต้นให้ดอกเร็วทำให้มีกำสังใจให้ลองปลูกไม้ดอกชนิดอื่นต่อไป







ที่มา : http://www.thaikasetsart.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น